โรคเก๊า ลดยูริค ข้ออักเสบ ข้อโตแก้ได้ง่าย
การวินิจฉัย และการตรวจเพิ่มเติม
***เจาะน้ำในข้อไปตรวจ วิธีนี้นอกจากจะเป็นวิธีการตรวจยืนยันที่ดีที่สุดแล้ว ยังช่วยวินิจฉัยแยกโรคอื่น ๆได้อีกด้วย
***เจาะเลือดตรวจระดับกรดยูริคว่าสูงกว่าปกติหรือไม่ x-ray ข้อที่มีอาการปวด เพื่อดูความผิดปกติในภาพรังสี
โรคเก๊าท์ เกิดขึ้นได้อย่างไร
โรคเก๊าท์ เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในเพศชาย ผู้ป่วยจะมีอาการปวดที่ข้ออย่างฉับพลัน รวมถึงยังมีอาการข้อแข็ง และบวม ซึ่งมักจะเป็นที่นิ้วหัวแม่เท้า ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการของโรคเก๊าท์ก็จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อข้อต่อ เส้นเอ็นและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ได้
โรคเก๊าท์เกิดจาก ร่างกายมีกรดยูริคในเลือดสูงกว่าปกติ และมีการสะสมกรดยูริคเป็นระยะเวลาที่ยาวนานหลายปี จึงทำให้กรดยูริคตกตะกอน สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ถ้าสะสมมากที่ข้อต่อ ก็จะเกิดอาการข้อต่ออักเสบ และปวดแดงร้อนบริเวณข้อต่อ, ถ้ากรดยูริคสะสมอยู่ตามผิวหนังมาก จะส่งผลให้เกิดปุ่มนูนบนขึ้นตามผิวหนัง, ถ้ากรดยูริคสะสมที่ไตมาก ก็จะเกิดเป็นโรคนิ่วในใตและเกิดอาการใตเสื่อม เป็นต้น
สาเหตุของโรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์เกิดจากการมีกรดยูริกในเลือดมากเกินไป (hyperuricemia) ซึ่งสาเหตุของภาวะกรดยูริกในเลือดสูงมีคำอธิบายที่ยังไม่ชัดเจน แต่มีความเชื่อว่าปัจจัยทางด้านพันธุกรรมน่าจะมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว
สาเหตุของโรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์เกิดจากการมีกรดยูริกในเลือดมากเกินไป (hyperuricemia) ซึ่งสาเหตุของภาวะกรดยูริกในเลือดสูงมีคำอธิบายที่ยังไม่ชัดเจน แต่มีความเชื่อว่าปัจจัยทางด้านพันธุกรรมน่าจะมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว
เมื่อกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น อาจตกผลึกในข้อต่อ ซึ่งจะกระตุ้นกระบวนการในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการอักเสบ รวมถึงอาการปวด และบวมของข้อต่อ
แม้ว่าสาเหตุของโรคเก๊าท์ที่แท้จริงยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างพบว่าเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของกรดยูริกโดยตรง ได้แก่
- การมีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน
- รับประทานอาหารที่มีพิวรีน (purine) สูง เช่น เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล เนื่องจากพิวรีนสามารถเปลี่ยนเป็นกรดยูริกได้ภายในร่างกาย
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- ยาบางชนิดที่อาจเพิ่มระดับของกรดยูริก เช่น แอสไพริน (aspirin) ไนอาซิน (niacin) หรือการใช้ยา-ขับปัสสาวะ (diuretics)
- ความเจ็บป่วยหรือสภาวะทางการแพทย์บางประการ เช่น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือโรคความดันโลหิตสูง
กรดยูริคคืออะไร
กรดยูริคนั้นเป็นสารที่เกิดจากร่างกายของเรา สามารถสร้างขึ้นได้เองถึง 80% ในร่างกาย ส่วนอีก 20% ที่เหลือ จะนำเข้ามาจากรับประทานอาหาร ที่มีสารพิวรีนเข้าไป โดยสารพิวรีนสามารถพบได้ในอาหารจำพวก สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ พืชผักบางชนิด และอาหารทะเลบางอย่าง
ถ้าหากในร่างกายมีกรดยูริคมากเกินไป
ตามปกติแล้วร่างกายของคนเรา จะขับกรดยูริคที่เกินความจำเป็นออกไป ได้ทางปัสสาวะ แต่ในร่างกายของบางคนไม่สามารถขับกรดยูริคออกไปได้หมด จึงเกิดกรดยูริคสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณของกระดูก ผนังหลอดเลือด และไต(ที่เป็นตัวฟอกเลือด+ขับกรดยูริคไปทางปัสสวะ) ดังนั้น การขับกรดยูริคออกไปไม่หมดจนตกตะกอนมากๆ จึงกลายเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคเก๊าท์
อาการของโรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์ในระยะเริ่มแรก คือมีอาการปวดแดงอย่างเฉียบพลัน โดยในช่วงวันแรกจะเป็นช่วงที่ปวดมากที่สุด และไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า จุดที่จะแสดงอาการก่อนส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้แก่นิ้วโป้งเท้า และตรงข้อเท้า และข้อเข่า หลังจากเวลาผ่านไปในวันที่สองอาการปวดก็จะเบาบางลงและหายปวดใน 5 - 7 วันหลังเกิดอาการ โดยสถิติแล้วพบว่า เพศชายมีโอกาสเป็นโรคเก๊าท์มากกว่าเพศหญิง
อาการที่เด่นชัดของโรคเก๊าท์ คือ โพดากร้า (podagral) ซึ่งจะมีอาการอักเสบของข้อที่นิ้วหัวแม่เท้า ผู้ป่วยจะรู้สึกปวด รวมถึงสังเกตได้ว่าข้อเท้ามีอาการบวมแดงและร้อน อาการปวดมักจะเริ่มต้นในช่วงกลางคืน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดอาจเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพฟรี ที่ 065-096-4419 , 093-264-9053
ศึกษาเพิ่มเติม
แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลโรคเก๊าท์ เฉพาะทาง
ตรวจสอบ อย.ก่อนใช้
ตรวจสอบ อย. กดที่ภาพ
ลดปริมาณกรดยูริก ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์
ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์
บำรุงไตให้แข็งแรง ลดภาวะไตเสื่อมปรับสมดุลกรดยูริกในร่างกาย
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล น้ำตาล และไขมันในเลือดและช่วยปรับระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
1.Rehmannia Root เส็กตี่หรือ Chinese foxglove เป็นยาสมุนไพรจีนโบราณที่มีใช้กันอย่างกว้างขวาง ช่วยบำรุงไตให้ชุ่มชื่น มีประโยชน์ต่อผู้ที่มีพลังไตอ่อนแอ ทำให้ระบบปัสสาวะเป็นปกติ ช่วยสลายผลึกของกรดยูริกที่เกาะอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายและขับออกมาทางปัสสาวะ ทำให้ปริมาณกรดยูริกและอาการอักเสบ ปุ่มบวมจากโรคเก๊าท์ลดลงได้ และลดการปวดตามข้ออีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยช่วยในการบำรุงเลือด ลดความดันในเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงไขกระดูกให้แข็งแรง
2.Folic Acid หรือวิตามินบี 9 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำเป็นวิตามินบีสำคัญที่ช่วยในการย่อยสลาย macronutrients ที่มีความสำคัญสำหรับการทำงานและประสิทธิภาพของอวัยวะในร่างกายการรักษาอวัยวะต่างๆเช่นไตและตับจะช่วยให้มั่นใจว่าสามารถกรองกรดยูริกออกจากเลือดและขับออกทางปัสสาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพกรดโฟลิกสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์xanthine oxidase ที่ใช้รักษาอาการโรคเก๊าท์เมื่อกรดยูริกลดลง ทำให้รักษาโรคเก๊าท์ได้นอกจากนี้กรดโฟลิคมีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดงป้องกันโรคภาวะโลหิตจางบำรุงไต ทำให้ขับกรดยูริกได้เป็นปกติ 3.Ganodermalucidum extract เห็ดหลินจือ เป็นหนึ่งใน สมุนไพรเก๊าท์ ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก โดยช่วยฟื้นฟูการทำงานของไต ลดการอักเสบของไต สร้างสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบหมุนเวียนโลหิต ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อย ปวดข้อ ช่วยบรรเทาอาการปวดโรคเก๊าท์ และ โรครูมาติกและยังมีสารสำคัญหลายชนิดเป็นสาร Anti-oxidant ที่ช่วยชะลอความแก่ ลดการเสื่อมสลายของเซลล์4. Dandelion สารสกัดแดนดิไลออนสกัดจากต้นแดนดิไลออน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Taraxacumoffininale เติบโตในเขตอบอุ่นของยุโรปและอเมริกาเหนือเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถเติบโตสูงได้ถึง 12 ปี อุดมไปด้วยสารชื่อว่าทาแร็กซาซิน (Taraxacin) มีคุณสมบัติในการชะล้างสารพิษ (Detoxification) ช่วยให้ตับและไตสามารถขจัดสารพิษออกนอกร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยกรองสารพิษออกจากเลือด ขับสารพิษออกจากตับและไตกระตุ้นการสร้างน้ำดีที่ตับและเพิ่มการไหลน้ำดีไปยังถุงน้ำดีป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีช่วยควบคุมระดับไขมันในร่างกาย และช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ เป็นแหล่งวิตามินเอธรรมชาติ ช่วยบำรุงสายตาและมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกายลดอาการอักเสบบรรเทาอาการปวดบวมจากโรคเก๊าท์ 5.Wolfberry Fruit เก๋ากี๊เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ ฟอลิฟินอล แคโรทีนและไพราโซล ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยเสริมระบบคุ้มกันและฟื้นฟูตัวเองของร่างกาย ช่วยลดการปวด อักเสบ และบวมในผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อกระดูก ขจัดพิษออกจากร่างกายโดยเฉพาะในไตและตับ 6.Turmeric extract ขมิ้นชันมีสารเคอร์คูมิน (curcumin) ชะลอการสร้างพรอส-ตาแกลนดิน (prostaglandin) ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาการปวดเป็นกลไกคล้ายกันกับกลไกระงับปวดของแอสไพรินและไอบูโพรเฟนที่ปริมาณสูงๆเคอร์คูมินกระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งสารคอร์ติโซนเพื่อระงับการอักเสบและความปวดจากการอักเสบจึงช่วยลดอาการปวดข้อซึ่งเป็นอาการของคนเป็นโรคเก๊าท์
7.Krachaidum extractสารสกัดสำคัญหลายชนิด เช่น 5,7 – DMF มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเทียบได้กับยามาตรฐานหลายชนิด คือ แอสไพริน, อินโดเมธาซิน, ไฮโครคอร์ติโซน และเพรดนิโซโลน โดยออกฤทธิ์ต้านการอักเสบแบบเฉียบพลันได้ดีกว่าแบบเรื้อรัง ในสัตว์ทดลอง สรรพคุณกระชายดำ ช่วยขับปัสสาวะ รักษาสมดุลของกรดยูริกในร่างกาย ช่วยรักษาโรคเก๊าท์ เป็น ยาอายุวัฒนะ ชะลอความแก่ ลดการเสื่อมสลายของเซล และช่วยรักษาโรคปวดข้อ, โรครูมาสติกได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยสร้างความสมดุลของความดันโลหิตให้ไหลเวียนดีขึ้นขยายหลอดเลือด ขจัดไขมันในหลอดเลือด
สารสกัดธรรมชาติ สรรพคุณเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าอย่างแท้จริง เพราะอุดมไปด้วย Rehmannia Root หรือเส็กตี่ยาสมุนไพรจีนโบราณที่มีใช้กันอย่างกว้างขวาง ช่วยในการลดกรดยูริก ขับกรดยูริกออกจากร่างกายมาพร้อมกับปัสสาวะ รักษาโรคเก๊าท์ ลดอาการอักเสบบวม กำจัดผลึกกรดยูริกที่เกาะอยู่ตามเนื้อเยื่อข้อ อย่างมีประสิทธิภาพสูงผสมผสานกับ Dandelion และ Ganodermalucidum เห็ดหลินจือ ที่ช่วยบำรุงระบบการทำงานของไตเพราะไตเป็นอวัยวะหลักที่มีส่วนช่วยในการรักษาโรคเก๊าท์สูงและกว่า 70% ของผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เกิดจากสภาวะไตเริ่มเสื่อมสภาพหรือการทำงานของไตพกพร่องซึ่งพุทราจีนและเห็ดหลินจือมีคุณสมบัติลดการอักเสบของไต ฟื้นฟูไตให้สมบูรณ์ ปรับระบบการขับกรดยูริกทางไตสมบูรณ์ขึ้น ปริมาณกรดยูริกในร่างกายจึงอยู่สภาวะปกติ ซึ่งจำเป็นต่อผู้ป่วยโรคเก๊าท์อย่างมาก และยังมีคุณสมบัติของ Wolfberry Fruit เก๋ากี๊สมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ ฟอลิฟินอล แคโรทีนและไพราโซล ช่วยลดการปวด อักเสบ และบวมในผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อกระดูก ขจัดพิษออกจากร่างกายโดยเฉพาะในไตและตับ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพฟรี ที่ 065-096-4419 , 093-264-9053 หรือ
คลิิ๊กลิงค์ด้านล่างทักแชทได้ทันทีhttps://line.me/R/ti/p/%40thanawatdboon
"โรคเก๊าท์" กับ อาหารต้องห้าม!!!
ปัจจัยกระตุ้นโรคเก๊าท์
***กินอาหารชนิดที่มีสารพิวรีนมาก เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์
***การดื่มเหล้าและเบียร์
***ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิตบางตัว ทำให้กรดยูริคสูงในเลือด
***ปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ ได้แก่ บาดเจ็บ หลังผ่าตัดใหม่ๆ ความเครียด เป็นต้น
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดังต่อไปนี้ : หัวใจไก่ ตับไก่ กึ๋นไก่ เซ่งจี้หมู ตับหมู ไต ตับอ่อน มันสมองวัว เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ห่าน ไข่ปลา ปลาดุก ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์ ปลาซาร์ดีน กุ้งชีแฮ้ หอย น้ำสกัดเนื้อ น้ำต้มกระดูก น้ำซุปต่างๆ ซุปก้อน ยีสต์ เห็ด ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง กระถิน ชะอม แตงกวา หน่อไม้ กะปิ
ที่มา : http://www.healthy.freewer.net/index.php/ortho/gou.html












































ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น